ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

responsibilities


Interact with third party case management and Worker's Compensation carrier personnel.

Provide emergency and episodic treatment of occupational and non-occupational injuries and illnesses.

Meet current state professional requirements regarding licenses and continuing education as required and necessary. This may be accomplished by but not limited to seminars, college courses, continued educational classes, workshops, and certification exams.

Maintain the workers' compensation records and provide case management.

Orient the employees on the importance of health related issues.

Assist in accident review meetings as appropriate to determine the act or condition that lead to the accident and the follow up on how to prevent the accident from occurring in the future.

May need to provide health training to the management staff at the facility. This includes but is not limited to, CPR and First Aid. Provide health promotion training to all employees.

Provide health consultation and information to support all company health efforts. Facilitate the communication process between supervision and employees in regards to the safety culture.

Maintain the health facility which includes: keeping ample supplies of medication, bandages, first aid equipment, and educational material.

Interact with the workforce by taking tours of the facility and communicating with the employees.

May be required to perform various other tasks as assigned by supervisor.

Maintain a position on the Ergonomic Committee.

Facilitate the process of all medical assessments for both applicants and current employees.

Maintain accurate records related to Bangkok office, Worker's Compensation insurance, and corporate reporting.

Perform all other duties that may be necessary and required to execute this position's responsibilities.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การจัดการขยะติดเชื้อในห้องพยาบาลประจำโรงงาน

จากการจัดการสิ่งแวดล้อมมีข้อกำหนดด้านการจัดการขยะอันตรายอันเกิดจากสิ่งปนเปื้อนในการปฏิบัติการพยาบาล ที่พยาบาลควรมีการจัดการให้สอดคล้องกับ กระบวนการกำจัดขยะในโรงงาน มีการแยกขยะที่ถูกต้อง ตามสัญญลักษณ์ที่เราเลือกใช้คือถุงแดง ขนาดใหญ่กว่าภาชนะบรรจุ หรือถังขยะเล็กน้อย ขนาดเหมาะสมกับปริมาณขยะติดเชื้อ(หรือขยะอันตราย)  เลือกความหนาของพลาสติกให้เหมาะสม ป้องกันการรั่วซึม ภาชนะรองรับต้องมีฝาปิด ชนิดที่ใช้เท้าเหยียบเปิดปิด หรือมีการเปิดปิดได้ตามต้องการโดยไม่มีการสัมผัส วางในตำแหน่งที่ระบุเท่านั้น (ควรชิดฝาด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่กีดขวางทางสัญจร) ด้วยเหตุผลที่ว่า ป้องกันการล้มและหกเลอะเทอะ  หลังการใช้งานครบ 12 ชม. ควรรวบปากถุงผูกให้แน่น เปลี่ยนถุงใหม่ ย้ายขยะที่เก็บรวบรวมแล้ว นำไปพักไว้รอการนำไปกำจัด สถานที่พักขยะติดเชื้อควรเป็นที่ปิด จำกัดผู้เข้าถึงและปลอดภัยจากการขุดคุ้ยจากสุนัข การขนย้ายขยะต้องจัดการโดยผู้ได้รับการอบรมการเคลื่อนย้ายขยะอันตราย มีเครื่องป้องกันส่วนบุคคล การจัดเก็บและทางสัญจรขยะ รวมถึงการจัดการหากขยะรั่วซึมหรือ เกิดอุบัติเหตุขณะขนย้าย การกำจัดขยะต้องได้รับการรับ...

พิษของกรดกัดแก้ว

rofluoric acid โดย นพ.วิวัฒน์ เอกบูรณะวัฒน์ (4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554) ชื่อ  กรดกัดแก้ว (Hydrofluoric acid) |||||  ชื่ออื่น  Hydrogen fluoride solution สูตรโมเลกุล  HF   |||||  น้ำหนักโมเลกุล  20.01   |||||  CAS Number  7664-39-3   |||||  UN Number  1052 ลักษณะทางกายภาพ  ของเหลว ใส ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน ก่อความระคายเคือง คำอธิบาย  กรดกัดแก้ว หรือ กรดไฮโดรฟลูออริก (hydrofluoric acid) คือสารละลายของไฮโดรเจนฟลูออไรด์ (hydrogen fluoride) ในน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลว ใส มีกลิ่นฉุนแสบ กรดชนิดนี้นิยมใช้ในการกัดแก้วหรือกระจกให้เป็นลาย พิษของกรดชนิดนี้ มีความรุนแรงและอันตรายอย่างมาก เนื่องจากเมื่อหกรดใส่ผิวหนังแล้ว ไม่เพียงแต่ทำลายเนื้อเยื่อส่วนที่สัมผัสเท่านั้น แต่ยังซึมลึกลงไปกัดกร่อนถึงกระดูกได้ด้วย พิษของกรดกัดแก้ว สามารถรักษาได้ด้วยยาต้านพิษคือแคลเซียมกลูโคเนต (calcium gluconate) ค่ามาตรฐานในสถานที่ทำงาน  ACGIH TLV (2004): TWA = 0.5 ppm, Ceiling = 2 ppm ||||| NIOSH REL: TWA = 3 ppm, Ceiling = 6 ppm, IDL...

ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (biological marker

ในการดำเนินงานด้านอาชีวเวชศาสตร์นั้น การตรวจยืนยันการสัมผัสสารเคมีด้วยตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (biological marker หรือ biomarker) เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง บทความนี้เป็นบทความที่แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เขียนไว้นานพอสมควรแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงจะขอนำมาลงเผยแพร่ไว้ค่ะ ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ  (Biomarker) นพ.วิวัฒน์  เอกบูรณะวัฒน์ แพทย์อาชีวเวชศาสตร์ รพ.สมิติเวช ศรีราชา บทนำ ในการทำงานทางด้านอาชีวอนามัยนั้น การดูแลสุขภาพผู้ที่สัมผัสสารเคมีต่างๆ ในที่ทำงานถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ซึ่งการดูแลสุขภาพผู้ที่ทำงานสัมผัสสารเคมีนั้น วิธีหนึ่งคือการเฝ้าระวังทางสุขภาพ ซึ่งหมายถึงการประเมินเป็นระยะ เพื่อจะได้ทราบว่าพนักงานมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารเคมีจนเป็นอันตรายแล้วหรือยัง เราจะประเมินการสัมผัสสารเคมีของพนักงานได้อย่างไร ? ตอบ : ทำได้โดยใช้ข้อมูลจากหลายทาง คือ สอบถามจากพนักงานโดยตรง (ถามอาการเช่น เคืองตา , เวียนหัว, แสบจมูก ฯลฯ) ตรวจร่างกายพนักงาน (ดูอาการเช่น ซีด , ตัวเหลือง, จิตประสาทสับสน ฯลฯ) ตรวจวัดปริมาณสารเคมีในสิ่งแวดล้อม  (en...